คนอิมแพ็ค กำลังสร้าง IMPACT...เมืองทองธานี

เมื่อโลกเปลี่ยน เมืองก็ต้องปรับตัว วันนี้ เมืองทองธานี กำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ กว่า 3,454 ไร่ของพื้นที่ของโครงการนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก คือ ที่ตั้งของ “วังจันทร์วัลเลย์” เมืองอัจฉริยะต้นแบบของประเทศไทย ภายใต้การพัฒนาโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลป่ายุบ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง พื้นที่แห่งนี้ถูกออกแบบขึ้น ด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ การเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน
ทำไมต้องวังจันทร์วัลเลย์
เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เริ่มจากการเรียนรู้จากต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ โดยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ กับการจัดตั้ง คณะทำงานเมืองอัจฉริยะเมืองทองธานี อย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนจากทุกแผนก ทุกส่วนงาน ทั้งจากบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด(มหาชน)และบริษัทในเครือ ที่มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
จุดเริ่มต้นของภารกิจแรก คือ การศึกษา เรียนรู้ และรวบรวมข้อมูล จากเมืองอัจฉริยะอันดับ 1 ของประเทศไทย “วังจันทร์วัลเลย์” เพื่อถอดบทเรียนและนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของเมืองทองธานี เมืองที่พวกเราทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตร่วมกัน
คณะทำงานเมืองอัจฉริยะเมืองทองธานี ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก คุณธนพงษ์ บุญเลี้ยง ผู้จัดการหน่วยงานวิศวกรรมและบริหารการก่อสร้าง โครงการนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ วังจันทร์วัลเลย์ ที่มาแบ่งปันแนวคิด ความสำเร็จ รวมถึงบทเรียนจากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะไม่ใช่แค่ภาพฝัน แต่เป็นสิ่งที่ “ทำได้จริง”
เมืองนวัตกรรมที่ครบทุกมิติ
วังจันทร์วัลเลย์ ถูกพัฒนาในรูปแบบ Smart Natural Innovation Platform ที่ตั้งเป้าเป็นเมืองหลวงแห่งนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุดของประเทศไทยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่สำคัญ
- พื้นที่เพื่อการศึกษา (Education Zone)
- พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone)
- พื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ที่พักอาศัยและสันทนาการ (Community Zone)
ทั้งหมดถูกออกแบบมาให้เป็นต้นแบบ เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ครบทั้ง 7 ด้าน ประกอบด้วย 1.Smart Environment 2.Smart Governance 3.Smart Mobility 4.Smart Energy 5.Smart Economy 6.Smart Living และ 7.Smart People
เทคโนโลยียกระดับคุณภาพชีวิต
อีกไฮไลต์ของการเยี่ยมชม คือ ศูนย์ควบคุมและสั่งการอัจฉริยะ-Control Command Center (CCC)ที่มีการนำ Machine Learning มาปรับใช้ในการบริหารจัดการเมือง ตั้งแต่ระบบความปลอดภัยในโครงการวังจันทร์วัลเลย์ ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอัจฉริยะ (CCTV) ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การใช้ชีวิต การทำงาน การเรียนรู้ เป็นไปอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ คณะทำงานเมืองอัจฉริยะเมืองทองธานี ยังได้เยี่ยมชม ศูนย์นวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะ GPSC (GPSC Smart Energy Center) โรงเรียนกำเนิดวิทย์ สถาบันวิทยสิริเมธี และศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงนวัตกรรมเข้ากับชีวิตจริงได้อย่างลงตัว
การศึกษาดูงานครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อม เพื่อพัฒนาแนวคิดเมืองอัจฉริยะเมืองทองธานี ให้สอดคล้องกับบริบทขององค์กร และต่อยอดสู่การวางแผนในอนาคต
เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะไม่เกิดจากคณะทำงานเพียงกลุ่มเดียว แต่เกิดจากการเรียนรู้ความร่วมมือ และพลังของพนักงานทุกคน
เมืองอัจฉริยะเมืองทองธานี ไม่ใช่แค่เป้าหมายขององค์กร แต่คือ อนาคตที่เราทุกคนจะร่วมสร้างไปด้วยกัน