เลือกสีหลอดไฟให้เหมาะกับการใช้งาน...ช่วยประหยัดไฟ

การเลือกสีหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่เพียงช่วยให้แต่ละห้องของบ้านสดใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสายตา และช่วยลดค่าไฟด้วย เพราะหากเลือกสีหลอดไฟไม่เหมาะกับการใช้งาน ก็อาจทำให้รู้สึก อึมครึม อึดอัด วันนี้จึงอยากชวนทุกคนมาสังเกตหลอดไฟที่บ้าน รวมถึงที่ทำงานด้วย ว่า เหมาะสมในการใช้งานอยู่หรือไม่

• แสงสีของหลอดไฟ...ต่างกัน
  สีของหลอดไฟที่เห็นกันแท้จริงแล้วขึ้นอยู่กับ “อุณหภูมิของสี” ที่จะแสดงในหน่วยเคลวิน (K) โดยทั่วไปแล้ว หลอดไฟจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ  3,000 – 6,000 K ยิ่งอุณหภูมิต่ำ สีของแสงก็จะยิ่งออกไปในโทนร้อน เช่น ไฟสีส้ม ออกแนวโคซี่ อบอุ่น ๆ แต่หากอุณหภูมิสูง สีของแสงก็จะออกไปในโทนเย็น มองแล้วทำให้รู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า เช่น ไฟสีขาว

• เลือกสีหลอดไฟให้มุมโปรด
  ตามท้องตลาดแบ่งสีของหลอดไฟเป็น 3 สีด้วยกัน ดังนี้

1.สีหลอดไฟวอร์มไวท์ (Warm White) มีอุณหภูมิ 2,500-3,300 K  สีโทนร้อนจัด สีเหลืองอมส้ม ไปจนถึงขาวอมเหลือง ให้ความอบอุ่น สบายตา เหมาะกับสำหรับห้องนอน โทนแสงสีส้มทำให้สบายตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

2.สีหลอดไฟคูลไวท์ (Cool White) มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 4,000 K จุดกึ่งกลางระหว่างสีแบบวอร์มไวท์และเดย์ไลต์ที่ยังออกไปในโทนเย็น ช่วยขับสีสันที่ชัดเจน และไม่สว่างจ้าจนเกินไป เหมาะกับห้องทำงาน เพื่อให้ห้องดูสว่าง มองเห็นรายละเอียดของงานที่ทำอยู่ได้ชัดเจน ให้รู้สึกกระฉับกระเฉง กระตือรือร้น และแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา ช่วยเพิ่มสมาธิและลดอาการเมื่อยล้าจากการทำงานเป็นเวลานาน.

3.สีหลอดไฟเดย์ไลต์  (Day Light) มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 4,500– 6,500 K สีโทนเย็น สีขาว ไปจนถึงขาวอมฟ้า สีที่ใกล้เคียงแสงธรรมชาติที่สุด ช่วยให้มองเห็นสิ่งของชัดเจน เหมาะสำหรับห้องน้ำ และห้องครัว จะช่วยให้ห้องดูสะอาด ทั้งยังช่วยให้มองเห็นสวิตช์ไฟ และสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจน ช่วยป้องกันอุบัติเหตุในทางอ้อมได้

• เคล็บ(ไม่)ลับ เลือกใช้หลอดไฟแอลอีดี ประหยัดพลังงานกว่า
  1.ช่วยประหยัดพลังงานกว่าหลอดแบบเก่าถึง 80%
  2.มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ที่สำคัญควรเปิดไฟเท่าที่จำเป็น
  3.ปิดไฟเมื่อออกจากห้อง หรือ เมื่อมีแสงธรรมชาติเพียงพอ
  4.ทำความสะอาดหลอดไฟสม่ำเสมอ เพราะหลอดไฟที่สะอาดจะให้แสงสว่างเต็มที่
  ที่สำคัญเวลาเลือกซื้อสินค้า ควรเลือก สินค้าที่ได้รับมาตรฐาน มอก. เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัย

ที่มา: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค